รอยแตกร้าว

เคยมีปัญหากับการซ่อมแซม รอยแตกร้าว ด้วยตัวเองหรือไม่ แม้ว่าเดี๋ยวนี้จะมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การซ่อมง่ายดายขึ้นแล้ว คนที่ไม่ได้เป็นช่างก็สามารถจัดการทุกอย่างจนเสร็จสิ้นได้ แต่ผลสุดท้ายแล้วกลับพบว่ารอยร้าวนั้น สไตล์การตกแต่งบ้าน เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ซ่อมไปไม่นานก็ต้องกลับมาซ่อมใหม่ แถมร่องรอยการซ่อมเก่าที่ทำไว้ก็แก้ไขได้ยากอีกด้วย พอกันทีกับการซ่อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลองมาดูกันว่ามันมีเทคนิคอะไรช่วยให้ผลงานที่เราทำไว้แข็งแรงคงทนบ้าง เพิ่มขนาดของ รอยแตกร้าว ให้กว้างขึ้น อย่าพึ่งตกใจที่ได้ยินอะไรแบบนี้ และไม่ต้องกังวลใจเลยว่า หลังจากเราพยายามทำให้รอยแตกร้าวมันใหญ่ขึ้นแล้ว ความเสียหายจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เพราะความจริงบริเวณขอบของรอยร้าวนั้น มันจะมีความเปราะบางมากกว่าปกติ วัสดุปิดรอยร้าวที่เราปิดทับลงไปจึงยึดเกาะได้ไม่นานนัก ผ่านไปไม่เท่าไรก็กะเทาะและหลุดร่อนออกมา ดังนั้นก่อนที่เราจะเริ่มการซ่อมแซมให้จัดการเคลียร์รอยให้เรียบร้อยเสียก่อน ทำความสะอาดรอยแตกร้าวล่วงหน้า เมื่อจัดการขยายรอยแตกร้าวเสร็จแล้ว ให้ทำความสะอาดพื้นผิวเพื่อเตรียมความพร้อม วิธีการพื้นฐานคือเริ่มจากปัดฝุ่นและเขี่ยเศษวัสดุต่างๆ ให้หลุดออก ตามด้วยการใช้ฟองน้ำชุบน้ำพอหมาดแล้วเช็ดให้ทั่ว…

ถ้าที่พักอาศัยของเรามีโครงสร้างคอนกรีตเป็นส่วนหลัก เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งก็จะมี รอยแตกร้าว เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะตัวบ้านต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เดี๋ยวก็ร้อนจัด เดี๋ยวก็เย็นและเดี๋ยวก็มีความชื้น สไตล์การตกแต่งบ้าน ทำให้ตัววัสดุมีการยืดขยายและหดตัว ช่วงแรกความยืดหยุ่นของวัสดุก็ยังพอรับความเสียหายได้ แต่พอเก่าแล้วก็เสื่อมสภาพเช่นเดียวกับหนังยางนั่นเอง ทีนี้ประเด็นที่เราอยากจะให้ทำความเข้าใจก็คือมีรอยร้าวแบบไหนบ้างที่ต้องระมัดระวัง รอยแตกร้าว ที่บริเวณโครงสร้างหลัก โครงสร้างหลักในที่นี้หมายถึงส่วนที่ต้องแบกรับน้ำหนักของตัวบ้าน รอยแตกร้าวที่จุดนี้จะมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลแก้ไขอย่างถูกต้อง ก็อาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้บ้านพังลงมาได้ ตัวอย่างของตำแหน่งรอยร้าวได้แก่ รอยร้าวที่ใต้ท้องคาน รอยร้าวที่เสา รอยร้าวบริเวณผนังที่เป็นแนวทแยงจากมุมเสาด้านหนึ่งไปหามุมเสาอีกด้านหนึ่ง เป็นต้น รอยพวกนี้พบเจอเมื่อไรต้องหาช่างมาตรวจสอบทันที รอยแตกร้าวที่ขยายขนาดอยู่ตลอดเวลา ปกติถ้าเป็นรอยแตกร้าวที่ไม่ได้สำคัญนัก มันจะหยุดการขยายตัวในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในทางกลับกันรอยร้าวที่อันตรายจะขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ วิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันในทางวิศวกรรมก็คือ ทำการจดบันทึกถึงขนาดความกว้างของรอยร้าวตามรอบเวลา…

เนื่องจาก รอยแตก ร้าวที่เกิดขึ้นกับอาคารบ้านเรือนนั้นมีหลายระดับ หากเป็นรอยแตกตามโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก อาจจะไม่สามารถซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ เพราะต้องผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ สไตล์การตกแต่งบ้าน เพื่อดูว่าในระยะยาวจะมีความเสียหายที่เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และมันเป็นจุดเสี่ยงถึงขนาดที่ต้องรีบแก้ไขแบบทันทีทันใดหรือไม่ ครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำแนวทางการซ่อมรอยร้าวที่ไม่ได้อันตรายมากนัก แต่ก็สร้างความลำบากให้กับผู้อยู่อาศัยพอสมควร เช่น มีแมลงเข้ามาตามรอยแตก มีความชื้นเข้ามาเมื่อฝนตก เป็นต้น ใช้วัสดุปิด รอยแตก ร้าวประเภทสกิมโค้ด ถ้าอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายสักหน่อย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกิมโค้ดสำหรับปิดรอยแตกร้าว ก็จะคล้ายกับการผสมปูนฉาบที่มีเนื้อละเอียด ใช้เพื่อฉาบทับพื้นผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น เพียงแต่สกิมโค้ดเป็นวัสดุที่ออกแบบมาให้มีคุณสมบัติเฉพาะที่มากกว่าซีเมนต์ เช่น กันน้ำได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ มีความเหนียวแต่แห้งช้า เป็นต้น เหมาะสำหรับรอยร้าวขนาดเล็กทั่วไป ปิดรอยแตกร้าวลึกด้วยโฟม…

ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงสร้างบ้านที่ไม่ได้ก่อสร้างด้วยวัสดุประเภทไม้แล้ว อย่างไรเสียก็ต้องมีวันเกิด รอยแตกร้าว เป็นธรรมดา สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องเข้าใจก็คือเราห้ามไม่ให้เกิดรอยเหล่านั้นไม่ได้ แต่เราเรียนรู้และเฝ้าสังเกตได้ว่ารอยแบบไหนเป็นอันตรายต่อตัวบ้านหรือไม่ เพื่อให้ระวังและตัดสินใจซ่อมแซมได้ถูกจุด โดยใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนและใช้เงินทุนให้คุ้มค่าที่สุด ครั้งนี้เราจึงนำรอยแตกแบบต่างๆ มาฝากกัน อันดับแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือ รอยแตกร้าว ตามแนวเสา เพราะนี่เป็นเหมือนจุดค้ำยันโครงสร้างทั้งหมด หากเสาเสื่อมสภาพจนรับน้ำหนักได้น้อยลง ก็มีโอกาสที่บ้านจะทรุดหรือพังลงมาได้ รอยแตกที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษคือรอยที่แตกตามแนวเฉียงตัดท่อนเสา ยิ่งถ้าเกิดขึ้นบริเวณหัวเสาซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับแนวคานยิ่งอันตราย ต้องรีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาแก้ไขโดยด่วน ส่วนรอยร้าวที่แตกตามข้างเสา แบบนี้ไม่ค่อยน่ากังวลนักอาจใช้เพียงแค่ปูนโป๊วแก้ไขรอยนั้นได้ ต่อมาเป็นรอยแตกร้าวเป็นแนวเฉียงบนผนัง แต่มันมีเส้นบางๆ กั้นระหว่างรอยที่อันตรายกับรอยที่ไม่มีผลอะไรอยู่ ทันทีที่เริ่มสังเกตเห็นรอยร้าว ให้ทำการบันทึกไว้ว่ารอยนั้นกว้างเท่าไรและยาวเท่าไร โดยให้ความสำคัญกับรอยที่วิ่งจากมุมผนังด้านล่างแล้วเฉียงไปยังมุมผนังด้านบนมากเป็นพิเศษ ถ้าเวลาผ่านไปแล้วรอยนั้นไม่มีความเปลี่ยนแปลงก็ไว้วางใจได้ แต่ถ้าร่องรอยแตกขยายกว้างขึ้นก็หมายความว่าตัวบ้านอาจเริ่มบิดตัว ก็ต้องเร่งหาทางแก้ไขเช่นกัน…