ถ้าคุณตัดสินใจเลือกสร้าง บ้านไม้ เพราะคิดว่าไม้นั้นมีความยืดหยุ่นสูง ปัญหารอยแตกร้าวแบบเดียวกับที่เกิดในบ้านปูนจึงไม่มี เราอยากจะขอให้ไตร่ตรองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเรานำมาฝากกันในครั้งนี้เสียก่อน ถึงแม้เนื้อไม้จะไม่แตกร้าวแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอื่น สไตล์การตกแต่งบ้าน การรับมือก็แตกต่างกันออกไปตามระดับความรุนแรงของปัญหานั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ลองมาดูกันเลยว่ามีเคสแบบไหนบ้าง
ความเสียหายของ บ้านไม้ ที่เกิดจากความยืดหยุ่น
ความยืดหยุ่นของเนื้อไม้นั้นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน ข้อดีก็คือทำให้บ้านไม้ไม่แตกร้าว ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ยึดต่อกันไว้ไม่ค่อยมีปัญหาฉีกขาดออกจากกันจนเป็นอันตราย แต่ด้วยความยืดหยุ่นที่สูงมากนี้ เวลาอุณหภูมิเปลี่ยนไป สภาพโดยรวมของเนื้อไม้ก็จะเปลี่ยนตามอย่างมาก เมื่อหนาวก็หดเล็ก เมื่อร้อนหรือชื้นก็ขยายใหญ่ จึงมีอาการบิด บวม และเสียรูปให้เห็นบ่อยๆ หากไม่มีการป้องกันให้ดี
ความเสียหายของบ้านไม้ที่เกิดจากการสึกหรอ
หากเทียบกันระหว่างเนื้อไม้กับเนื้อคอนกรีตแล้ว ต้องยอมรับว่าเนื้อไม้นั้นสึกหรอจากสภาพแวดล้อมได้ง่ายกว่า บ้านไม้ที่เลือกสร้างด้วยไม้จริง และไม่มีการเคลือบชั้นไม้อย่างถูกต้อง พอผ่านร้อนผ่านหนาวไปสักระยะ ผิวนอกของเนื้อไม้ก็จะเสียหาย ตามด้วยการผุกร่อนที่ซ่อมแซมได้ยากมาก บางชิ้นส่วนผุพังจากภายในที่เรามองไม่เห็น จะรู้ตัวอีกทีก็คือแทบจะพังลงมาแล้ว
ความเสียหายของบ้านไม้จากภัยของแมลง
เนื้อไม้เป็นอาหารอันโอชะของแมลงหลายชนิด และยังเป็นที่พักอาศัยยอดนิยมของสัตว์อีกหลายชนิดด้วย นอกจากการป้องกันโครงสร้างบ้านไม้อย่างถูกต้องแล้ว จะต้องมีการจัดระบบป้องกันสัตว์และแมลงที่จะมาทำลายเนื้อไม้ด้วย เช่น การวางท่อน้ำยากันปลวก การฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงตามรอบเวลาที่เหมาะสม เป็นต้น ไม่อย่างนั้นมันจะมีบางชิ้นส่วนที่เสียหายอย่างรวดเร็ว ขนาดเสาบ้านหายไปเกือบทั้งเสาเพราะปลวกก็เคยมีมาแล้ว